มาอเมริกาซื้อกระเป๋าอะไรดี? แนะนำ 10 แบรนด์กระเป๋าที่มาอเมริกาต้องจัด

อเมริกาอยู่อีกซีกโลกของไทยก็ว่าได้ เคยสงสัยไหมว่าทำไมคนไทยหลายๆคนจึงอยากไป บอกเลยว่าประเทศของเขาเจริญและมีมุมอเมซิ่งหลายๆมุมที่บ้านเราไม่มี ความเจริญชองบ้านเขา ทำให้กลายเป็นแหล่งผลืตแบรนด์ดังๆหลานแบรนด์ เรียกได้ว่าเป็นประเทศกำเนิดแบรนด์ดังๆก็ว่าได้ วันนี้ทางเราจึงอยากมานำเสนอ 10 แบรนด์กระเป๋าที่มาอเมริกาต้องตำให้ได้ เน้นแบรนด์สัญชาติอเมริกันโดยเฉพาะ มีอะไรบ้างมาดูกันเลยค่ะ

1.Kate Spade

เครดิตภาพ

Kate Spade เป็นแบรนด์ที่สาวๆอเมริกันหลงไหลก็ว่าได้เลยค่ะ หากคุณได้มีโอกาสไปอเมริกาจริงๆ คุณจะสังเกตเห็นได้เลยว่ากระเป๋าที่เกี่ยวไหล่หรือข้อมือสาวๆส่วนมากเป็นแบรนด์ Kate Spade เพราะอะไรนะ เหรอ ก็เพราะว่าดีไซน์ของแบรนด์นี้ ออกมาได้อย่างไม่ซ้ำจำเจ สะกดความน่าหลงไหลด้วยโทนสีที่โดดเด่น กระเป๋าของ Kate Spade เน้นรูปทรงแปลกตา แต่ยังคงเอาไว้ซึ่งความหรูหรามีเสน่ห์ บางรูปทรงผลิตออกมาดูเหมือนว่าไม่น่าได้รับความนิยม แต่ผิดคาดค่ะ ดันเป็นสินค้าขายดีซะงั้น และเจาะกลุ่มตลาดวัยรุ่นได้อย่างถล่มทลาย  Kate Spade ถือกำเนิดได้ไม่นานนักหากเทียบกับแบรนด์รุ่นเดอะๆ ก่อตั้งเมื่อปี 1993 โดยสามีภรรยาคู่หนึ่ง นามว่า Kate Brosnahan และ Andy Spade จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมถึงมีชื่อแบรนด์ว่า Kate Spade 

2.Calvin Klein

เครดิตภาพ

เป็บแบรนด์ที่ใครๆต่างก็รู้จัก นักร้องและคนดังหลายๆคนนิยมใข้ เพราะสไตล์ของทางแบรนด์ถือว่าครอบคลุมแบรนด์นี้มีผลิตภัณฑ์มากมายให้ชอปปิ้งกัน กระเป๋าของ calvin klein ผลิตออกวางจำหน่ายทั้งแบบผู้หญิง ผู้ชาย และunisex ความโดดเด่นของแบรนด์นี้คงจะไม่พ้นเรื่องดีไซน์ ที่ดูยังไงก็เฟี้ยว โฉบเฉี่ยวสุดๆ ดูหรูหรา ดุดัน เท่ห์และทันสมัยไปพร้อมๆกัน ราคาของแบรนด์นี้ไม่ได้สูงมากจนคว้าไม่ถึง ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ไม่ถือว่าแพงมากไปสำหรับวัยทำงานค่ะ หากตีเป็นเงินไทย ราคากระเป๋าเริ่มต้นที่หลักพัน กระเป๋าของ Calvin Klein ตอบโจทย์ผู้ใข้งานที่หลากหลาย มีทั้งกระเป๋าสตางค์ มินิแบก กระเป๋าเดินทาง กระเป๋าใส่ของชอปปิ้งชิวๆก็มีค่ะ หรืออย่างกระเป๋าคาดอกทาง Calvin Klein ก็ผลิตจำหน่ายเช่นกัน Calvin Klein ก่อตั้งโดย ดีไซน์เนอร์ชาวอเมริกันชื่อCalvin Klein

3.Michael Kors

เครดิตภาพ

Michael Kors เป็นแบรนด์ hi street ที่ได้รับความนิยมพอกับแบรนด์ไฮเอนด์อื่นๆ และเป็นหนึ่งในเป้าหมายของหลายๆคนเมื่อไปถึงอเมริกาแล้วต้องสอย Michael Kors ให้ได้ สาวๆที่อเมริกานิยมใช้กันอย่างล้นหลาม เพราะด้วยลูกเล่นของดีไซน์ที่ดูหรูหรา พร้อมกับการนำเอาความขัดมาผสมกันได้อย่างลงตัว ทำให้สินค้าของแบรนด์นี้ดูเหมาะกับทุกสไตล์ คุณภาพของแบรนด์นี้เป็นหนึ่งเลยค่ะ เพราะซื้อทีใช้ได้ยาวๆ ราคาของแบรนด์นี้กลางๆ เริ่มต้นสบายๆกระเป๋าด้วยราคาหลักพันเท่านั้นค่ะ ราคาที่พูดถึงเป็นราคาเต็ม ไม่นับรวมตอนเซลล์นะคะ ถ้าพูดตรงๆทางแบรนด์เน้นให้ทุกคนเข้าถึงแฟชั่นได้แบบทั่วถึง แฟชั่นเจ๋งๆแบรนด์นี้ก่อตั้งโดย Michael Kors ตามชื่อแบรนด์เลยค่ะ ปัจจุบันสินค้าแฟชั่นชื่อดังในเครือของ Michael Kors มีอยู่ 2-3 แบรนด์เลยนะคะ เพราะทาง Michael Kors เขาซื้อกิจการต่อนั่นเอง

4.Guess

GUESS Servicesเครดิตภาพ

หากนึกถึงแบรนด์ที่ชอบผลิตกระเป๋าที่มีหน้าตาน่ารักกิ๊บเก๋สักแบรนด์ ในหัวคิดแบรนด์ไหนไม่ออกเลย ยกเว้นแบรนด์ Guess แต่ขอบอกเพิ่มเติมเอาไว้สักหน่อยว่าทาง Guess  ไม่ได้ผลิตแต่กระเป๋าน่ารักๆนะคะ เพราะกระเป๋าคลาสสิก หรือนำสมัยทาง Guess ก็ทำการผลิตออกมาจำหน่ายเช่นกันค่ะ และก็ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมด้วย เพราะด้วยราคาของสินค้าสามารถเข้าถึงกระเป๋าสตางค์ของคนทุกวัย จึงเป็นสาเหตุว่าทำไมถึงได้รับความนิยมทุกสมัย รายละเอียดในการผลิตของ Guess คมชัดจนได้รับการยอมรับไปทั่ว LA มีความคงทนพอสมควรเลยค่ะ คนก่อตั้งแบรนด์ Guess คือ สองพี่น้องตระกูล Marciano ที่มุมานะก่อตั้งร้านเสื้อผ้าเล็กๆเมื่อปี  1980 จนประสบความสำเร็จจวบจนปัจจุบัน และยังไม่พอนะคะ เพราะแฟชั่นกระเป๋าของ Guess ในสมัยเริ่มแรกนั้นยังดังข้าททวีปไปยังยุโรปอีกด้วยค่ะ

5.Tory Burch

เครดิตภาพ

Tory Burch เป็นแบรนด์ที่มีเส้นทางที่น่าสนใจเอาซะมากๆ เพราะผู้ก่อตั้งแบรนด์นั้น กว่าจะตั้งต้นแบรนด์เป็นของตนเองได้อย่าง Tory Burch เธอได้สั่งสมประสบการณ์จากการทำงานด้านกระเป๋าและแฟชั่นมาจากแบรนด์หัวกะทิและแบรนด์อันดับต้นของอเมริกามาหลายปี จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2004 เธอได้ก่อตั้งแบรนด์ของตนเองขึ้น ชื่อว่า Tory Burch ตามชื่อของเธอนั่นเอง ภายหลังการจัดตั้ง Tory Burch ประสบความสำเร็จหนักมาก เพราะขึ้นเป็นแบรนด์ต้นนในใจชาวอเมริกัน แต่ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เพราะยังสามารถเจาะกลุ่มเป้าได้ทั้งในตลาดยุโรป และตลาดเอเชียอีกด้วย เพียงเท่านี้ก็สามารถเป็นตัวการันตีได้แล้วว่าหากไปถึงอเมริกา สิ่งหนึ่งที่ควรหิ้วถือติดมือกลับไทยมาก็คือกระเป๋าแบรนด์ Tory Burch

6.Marc Jacobs  

เครดิตภาพ

Marc Jacobs เป็นอีกแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในระดับต้นๆของอเมริกาและของโลก Marc Jacobs ก่อตั้งโดยดีไซน์เนอร์มากความสามารถที่มีถิ่นกำเนิดในนิวยอร์ค ก่อนที่จะมาเป็ย Marc Jacobs อย่างเต็มตัวนั้น เจ้าของแบรนด์อย่าง Marc Jacobs ได้ทำงานอยู่เบื้องหลังของแบรนด์หลุยส์ วิสตอง แต่ไม่ได้ตอกย้ำความเป็นมืออาชีพด้านการดีไซน์ของ Marc Jacobs เอาไว้เพียงเท่านี้ เพราะในปี ค.ศ.1987 Marc Jacobs ได้รับรางวัลนักออกยอดเยี่ยมด้านแฟชั่น และเป็นนักออกแบบที่มีอายุน้อยทีี่สุดที่ได้รับรางวัลสาขานี้ จากนั้นในปี 1993 จึงก่อตั้งแบรนด์ของตัวเองขึ้น แต่ยังไม่ได้ปังมาก จนกระทั่งในปี 1997 ได้ออกเสื้อผ้าชื่อ Marc by Marc Jacobs ทำให้ได้รับความนิยมแบบเกินคาด และภายหลังทางแบรนด์  Marc Jacobs ได้มช้ความสามารถในการผลิตสินค้าอย่างอื่น อย่างเช่นกระเป๋าของ Marc Jacobs ก็ปังไม่น้อย ดูได้จากที่ผู้นำแฟชั่น ดารา และนักร้องนิยมใช้นั่นเอง 

7.Coach

กระเป๋า Coach เป็นกระเป๋าที่ได้รับความนิยมในอเมริกาสุดๆเลยค่ะ โดยเฉพาะสาวๆนี่ชื่นชอบกันใหญ่เลยค่ะ  หนุ่มๆก็นิยมใช้ด้วยเช่นกัน จะเห็นได้ว่าหลายๆปีที่ผ่านมาคนไทยอย่างเราได้รับอิทธิพลทางด้านแฟชั่นกระเป๋าจากแบรนด์ Coach ด้วย รูปลักษณ์และราคากระเป๋าแบรนด์นี้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้หลายกลุ่ม ใช้งานสะดวก ออกแบบได้อย่างตรงสไตล์ใครหลายๆคน ทำให้การดีไซน์ครองใจสาวๆอเมริกันและเอเชียได้อย่างอยู่หมัด แรกเริ่มเดิมที Coach ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1941 แต่ยังไม่ได้เป็น Coach เต็มแบบฉบับอย่างในปัจจุบันนะคะ เพราะหลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1946 มีคู่สามีภรรยาชื่อว่าไมล์สคาห์นและลิลเลียน คาห์น ย้ายเข้ามาทำงานกับ Coach และได้สั่งสมประสบการณ์ในโรงทำเครื่องหนังดังกล่าวจนกระทั่งในปี ค.ศ. 1961 ทั้งคู่ก็ได้ซื้อกิจการเครื่องหนัง Coach มาเป็นของตนเอง และเดินหน้าธุรกิจตามวิสัยทัศน์ของพวกเขา จนโด่งดังและได้รับการยอมรับมาจนปัจจุบัน ไม่แปลกใจเลยค่ะ เพราะกว่าจะมาเป็น Coach ได้แบบเต็มเหนี่ยวอย่างที่เราๆเห็นและชื่นชอบ ทุกอย่างล้วนผ่านการผลิตมาจากประสบการณ์ทั้งนั้น   

8.Tommy Hilfiger

อาจเป็นรูปภาพของ 1 คน, กำลังยืน, กระเป๋าถือ และข้อความพูดว่า "TOMMY TOMMY TOMMY TOMMY TOMMY TOMMY TOMMY TOMMY FOMMY TOMMY TOMMY TOMMY TOMMY TOMMY SMMY OMY TOMMY TDIMY TOMMY TOMMY TOMMY TOMMY TOMMY IOMMY TOMM"เครดิตภาพ

Tommy Hilfiger กว่าจะมาเป็นแบรนด์นี้ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยค่ะ เส้นทางการเดินทางของแบรนด์นี้ค่อนข้างขรุขระ แต่ไม่มีอะไรฉุดความพยายามอย่างที่สุดของโทมัส เจคอบ ฮิลฟิเกอร์ได้ แบรนด์นี้เริ่มต้นจากเด็กหนุ่มที่ชื่นชอบเรื่องแฟชั่นและอยากเป็นดีไซน์เนอร์ จึงร่วมลงทุนกับเพื่อนๆในการขายเสื้อผ้า จนสามารถขยายกิจการได้อย่างทั่ว ซึ่งใช้ชื่อว่า People’s place แต่ไม่นานนักเขาก็ประสบปัญหาล้มละลายในวัย 25 แต่แล้วด้วยความพยายามของโทมัส เจคอบ ฮิลฟิเกอร์ เขาได้เริ่มแบรนด์ของตนเองในปี พ.ศ.2528 และภายหลังสินค้าของเขาได้รับความนิยม รวมไปถึงกระเป๋านานสไตล์อีกด้วย จริงๆแบรนด์นี้ควรไปตำมากๆค่ะ เมื่อไปถึงอเมริกา เพราะราคาไม่สูงมาก แถมยังมีลูกเล่นของดีไซน์ที่น่าจับจองอักด้วย 

9.Jimmy Choo

อาจเป็นรูปภาพของ กระเป๋าถือ และกลางแจ้งเครดิตภาพ

Jimmy Choo เป็นอีกแบรนด์ที่ไปถึงอเมริกาแล้วจะต้องซื้อให้ได้ เพราะซื้อที่โน่นราคาถูกกว่าแน่นอนค่ะ Jimmy Choo เป็นแบรนด์ที่วัยรุ่นเมกาชอบใช้มากๆเลยค่ะ เนื่องจากการดีไซน์ของกระเป๋าแต่ละรุ่นนั้น ดีไซน์ได้ท่ห์ มีเสน่ห์ ลวดลายที่ดูเหมือนจะเรียบง่าย แต่แฝงไปด้วยพลังความเท่ห์ จึงทำให้วัยรุ่นนิยมชมชอบ แถมกระเป๋าหลายๆรุ่นมีรูปลักษณ์แปลกตาไม่เหมือนใครอีกด้วยค่ะ จริงๆแล้ว Jimmy Choo ก่อตั้งโดย Jimmy Choo และ Tamara Mellon ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องปรองดองอะไรกับชาวอเมริกันเลย แต่ก็ต้องยอมรับว่าแบรนด์ของเขาได้รับความนิยมในระดับหนึ่ง เมื่อธุรกิจถดถอยทาง Jimmy Choo จึงได้ประกาศขายธุรกิจของตนเอง จากนั้นเจ้าของแบรนด์ Michael Kors จึงประกาศซื้อกิจการของ Jimmy Choo ทำให้ Jimmy Choo เสมือนได้เกิดใหม่ในสัญชาติอเมริกันนั่นเอง

10.Versace 

อาจเป็นรูปภาพของ หนึ่งคนขึ้นไป และกระเป๋าถือเครดิตภาพ

หลังๆมานี้ หากใครได้สังเกตการแต่งตัวของคนในวงการบันเทิง ไม่ว่าจะระดับประเทศ หรืออินเตอร์ คุณอาจจะเห็นแบรนด์กระเป๋าที่มีรูปหัวเมดูซ่าเป็นตราสัญลักษณ์ตามเป็นพร็อพให้กับพวกเขาอยู่บ่อยๆ แบรนด์ๆนั้นก็คือ Versace แรกเริ่มเลย Versace กำเนิดขึ้นที่อิตาลี่ การออกเสียงชื่อแบรนด์หลายๆคนก็พอจะรู้แล้วว่า แบรนด์นี้ไม่ได้มีสัญชาติมะกันแต่อย่างใด แต่ด้วยความที่เจ้าของแบรนด์แบกรับภาระค่าใช้จายไม่ไหว แฟชั่นเจ้ายักษ์ใหญ่ของมะกันอย่าง Michael Kors  จึงได้ฟื้นคืนชีพแบรนด์ Versace โดยการทุ่มเงินซื้อกิจการกว่าสองพันล้านเหรียญสหรัฐ โชคดีมากที่ทาง Michael Kors ได้หล่อเลี้ยง Versace ให้มีชีวิตอีกครั้ง เพราะแบรนด์นี้ผลิตสินค้าออกมาได้หรูหราทุกชิ้น โดยเฉพาะเวลาที่มองไปยังโลโก้สีทองอำไพบนกระเป๋า ยิ่งให้ความรู้สึกเป็นมาดามกลับมาทุกที ซื้อเถอะ 

 ถ้าถามว่าทำไมคนส่วนใหญ่ไปอเมริกาแล้วชอบซื้อกระเป๋าแบรนด์เหล่านี้กลับมาใช้ อารมณ์ก็คงจะประมาณว่าไหนๆก็ไปแล้วทั้งที ซื้อกระเป๋าแบรนด์ดังๆในราคาถูกดีกว่า และที่สำคัญได้ของแท้แน่นอนค่ะ  ซึ่งการสนับสนุนของแท้ ถือเป็นเรื่องที่ดี ช่วยลดการละเมิดหรือลดช่องทางในการค้าขายของลอกเลียนแบบนั่นเอง ยังไงหากคุณบินไปถึงโน่นแล้ว ตำมาสักแบรนด์เถอะค่ะ จะเอามาฝากซื้อใช้เองก็ดีไม่น้อยเลย  

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *